11.6.15

มิกะมิสยูววววว

ข้าพเจ้าถูกห้อมล้อมด้วยความพยายามของคนหลายคน

คนสำคัญที่เป็นทั้งผู้ร่วมงาน ,พาร์ทเนอร์ ,คู่หู ,คนรักและคนเคยรัก  ผลักดันทุกอย่าง ใส่ใจกับเราในทุกเรื่อง ไล่ไปอาบน้ำบ้างล่ะ ตีมือเวลาเผลอกัดเล็บบ้างล่ะ บางเรื่องก็ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมจนต้องนั่งนึกอยู่นานว่า เอ เราทำอย่างที่มันพูดจริงหรอวะ บางเรื่องก็ใหญ่โต ระดับต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังเลยก็มี การขอบคุณ ขอโทษ ไถ่ถามและลามปามไปจนถึงเล่าเรื่องแลกเปลี่ยนสิ่งที่ไปพบเจอมาในทุกเรื่องกับทุกคนเหล่านั้น เป็นสิ่งซึ่งสมควรกระทำ ไม่ว่าพวกเขาจะยินดีรับฟังเรา (as me) หรือไม่ก็ตาม
สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้  เราเดินทางไปหลายที่ของประเทศไทย  พบเจอคนใหม่ๆ และใครเดิมๆ  คละเคล้ากันไป  บางความสัมพันธ์เติบโตงอกเงยขึ้นด้วยการเดินทาง  บางความสัมพันธ์ได้รับการเยียวยา  และสมานรอยร้าว  ยังอีกมากความสัมพันธ์ที่ทั้งรอ และ/หรือ ไม่คาดหวังการกลับไปปรากฎตัวของเรา  บัดนี้ ข้าพเจ้าสูดหายใจลึกกักตุนแรงบันดาลใจเคล้าอายฝนต้นเดือนหกเข้าไปจนสำลักปอด  จึงยินดีประกาศดังๆว่า "ข้าพเจ้ากลับมาแล้ว"  และจะเดินทางไปหาทุกคนอย่างตั้งใจ  ไม่ว่าเจ้าของเรือนจะพร้อมต้อนรับหรือไม่ก็ตาม







มิกะมิสยูววววว

3.6.15

เวลาที่เป็นเอามาก นี่เป็นเอามากจริงๆ



1
มันเป็นร้านหนังสือที่ไม่พิถีพิถันกับอะไรเลย นอกจากหนังสือและกาแฟ กรุณาลืมภาพร้านหรูหราบรรยากาศชวนนั่งจิบกาแฟ มีบริกรหน้าตาจิ้มลิ้มไปก่อนสักครู่ ร้านนี้มีเพียงชั้นหนังสือ วางเรียงเบียดกันตรงทางก่อนถึงห้องน้ำ หนังสือหลากหลายแนวเข้าแถวเรียงกัน ไม่ถึงกับเป็นระเบียบ แต่มันมากไปด้วยความตั้งใจของคนจับวาง หนังสือแต่ละเล่มดูมีชีวิตชีวา ราวกับเป็นเด็กอนุบาลรอผู้ปกครองมารับ เอาจริงๆนะ ถ้ามันจะฟังดูกระแดะไปเยอะ ก็เพราะจริตมันฟ้องมาอย่างนั้นจริงๆ

2
มันเป็นวันจันทร์ คุณคงไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนในการหาที่นั่งในร้านแบบนี้ โดยเฉพาะวันจันทร์ อ้อ คุณอาจเข้าใจมันได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณเป็นหรือเคยเป็นมนุษย์ผู้อ่อนล้าจากวันหยุด ต้องการเคมีบางอย่างมาพยุงร่าง รับวันทำงานวันแรกของสัปดาห์
ขณะที่ก้าวเท้าเข้าร้าน โต๊ะเกือบทุกชุดมีเจ้าของไปแล้ว ผมใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อส่ายสายตาหาเก้าอี้ที่ดูจะยังว่าง แล้วตรงดิ่งเข้าไปหย่อนร่างลงประทับทันที

"รับอะไรดีครับ" บริกรหนุ่มชิงถาม

เราทิ้งคำถามน้องบริกร ค้างไว้กลางอากาศสามวินาที แล้วเอาสามวินาทีนั้นไปพิจารณาเมนู เลือก "อเมริกาโน" มาเป็นคำตอบ

"ร้อนหรือเย็นดีครับ ผมแนะนำว่า ถ้าร้อนควรนั่งห่างหน้าต่างเพราะแดดแรง แต่ถ้าจะสั่งเย็นผมเกรงว่าจะนานไป เวลานี้ก็เพิ่งจะเป็นช่วงสายของวันเอง"

--- ผมเล่าอะไรตกไปสินะ ความกวนประสาทของเจ้าของร้านยันบริกร เป็นทั้งของแถม(ที่ไม่เคยสั่ง) และเอกลักษณ์(ที่ไม่ค่อยน่ารักตามหน้าตาผู้ยิงมุก)---

ผมชักสีหน้าเล็กน้อย แล้วจึงตอบกลับไปว่า
"เอาร้อนๆเลยนะ จะเอามาสาดพนักงาน"

เจ้าหนุ่มจึงกระวีกระวาดไปชงได้เสียที

3
เธอจอดรถสีขาวคันใหญ่ที่ฟากตรงข้าม ริมถนนนั้นมีต้นไม้สูงตระหง่านพอจะเป็นร่มให้รถเธอไม่ต้องเผชิญกับแดดโดยตรง ถนนขนาดสองเลนธรรมดา ไม่ได้กว้างไปกว่าคลองแถวบ้านสักเท่าไหร่ ผมจ้องมองเธอจากระยะไกล มันไม่ได้ไกลตามระยะทาง ที่รู้สึกว่าห่างคงเพราะความรู้สึก (อะไรก็ตามมักจะดูห่างไกลเสมอ เวลาที่เราไม่รู้สึกถึง) จากประตูรถเธอถึงเคาเตอร์ ทุกอากัปกิริยาของเธอไม่หลุดไปจากคลองสายตาของผมเลย แต่ตอนนี้ เธอหยุดเคลื่อนไหวแล้ว!!! เหลือเพียงริมฝีปากบางสีนู้ดโทน ขยับทักทายกับบริกรพร้อมสั่งเครื่องดื่ม หูผมหยุดทำงานไปตั้งแต่สายตาเริ่มจับความเคลื่อนไหวของเธอได้ ดังนั้นเรื่องที่ว่าเธอสั่งอะไรดื่มนั้น ผมบกพร่องไปโดยสุจริต แต่จู่ๆ หูผมกลับมาทำงานอีกครั้งโดยไม่ต้องไปหาหมอรักษา ยาขนานแรงนั้นคือเสียงของหล่อน...